THE BEGINNER (PPL)

Private Pilot Licence ( PPL ) เป็นการเรียนเพื่อสอบใบอนุญาตส่วนบุคคล คือ ถ้าเรามีใบอนุญาตนี้ เราสามารถไปเช่าเครื่องบินขึ้นบินเองได้ แต่ห้ามนำไปใช้ในการว่าจ้าง การเรียน PPL เป็นการเรียนที่สอนคนที่ไม่รู้อะไรเลยให้ขับเครื่องบินเป็น ถ้าให้เราเปรียบเทียบก็เหมือนเราไปเรียนขับรถที่โรงเรียนฝึกขับรถยนต์นั้นแหละ PPL สอนทฤษฏีตั้งแต่เริ่มต้น ( ground school ) สอนกฏหมายการบิน คำศัพท์เฉพาะ พื้นฐานต่างๆ ส่วนประกอบของเครื่องบิน เครื่องบินบินได้ยังไง สิ่งที่เราควรจะรู้ก่อนที่จะทำการบิน อะไรประมาณนี้

ตั้งแต่เริ่มต้นจนเราได้ใบอนุญาตมา เราว่าหนังสือที่เราสามารถหาคำตอบได้เกือบทุกอย่าง
เป็นหนังสือที่รวบรวมทั้งกฏหมายการบินและคำอธิบาย หนังสือเล่มนั้นคือ FAR AIM
img_6712
FAR – Federal Aviation Regulations ( กฏทั้งหลาย ) AIM – Aeronautical Information Manual ( ข้อมูลและคำอธิบายทั้งหลาย ) FAR AIM ออกเล่มใหม่ทุกๆปี ของเราเป็นเล่มที่เราใช้เรียนเมื่อปี 2015  *FYI ในแต่ละครั้งที่สอบ หนังสือ FAR AIM ต้องตรงกับปีที่สอบด้วยนะ

ที่  Paris Air, Inc.  การเรียนจะแบ่งเป็น Stage ย่อยๆ ถ้าเราจำไม่ผิดนะ ทั้งหมดจะมี 3 stages และ 1 End of Course เราขอออกตัวแรงก่อนเลยว่า..เราจบ PPL มาตั้งแต่ Jun’15 มันก็ 2 ปี กับอีก 1 เดือนอ่ะนะ และเรามันเป็นพวกความจำสั้น ถึงขั้นเพื่อนให้ฉายาว่าปลาทอง เราเลยจะเล่าเท่าที่เราจำได้ละกัน อาจจะมีผิดพลาด หรือหลงลืมไปบ้าง เราต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย #อย่าโกรธกันเลย

Stage I ( Pre-Solo stage )

➤  การสอนพื้นฐานการบิน เช่น เทคออฟ แลนด์ดิ้ง เลี้ยวเครื่องบินยังไง เวลาเลี้ยวปกติต้อง Bank กี่องศา เวลาเครื่องบินไต่ต้อง pitch up (ยกหัว) กี่องศา เวลาลดระดับต้อง pitch down (โน้มหัว) กี่องศา

➤  ท่าทางการบิน ( Maneuvres ) เช่น Steep turn (การเลี้ยว) 30  องศา และ 45 องศา ทำ Turn around the point, S-turn, Power-on Stall, Power-off stall

➤  นอกเหนือจากนี้ก็มีสอน Traffic Pattern หรือ วงจรการบิน ( Upwind, Crosswind, Downwind, Base, and final ) อีกทั้งที่อเมริกามีหลายสนามบินที่เป็น Uncontrolled Airport คือ สนามบินที่ไม่มีหอควบคุม นักบินต้องคุยและรีพอทกันเอง เราจะต้องรู้สนามบินที่เราไปมี traffic pattern แบบไหน Left pattern or Right pattern และการที่เราจะเข้าไปใน traffic pattern ของเค้าเนี่ย การ join 45 degree left/right down wind เป็นสิ่งนักบินทุกคนคาดหวัง และการที่เราจะทำอะไรใน uncontrolled airport เราต้อง report ตลอดเวลา เช่น

➙  เราใกล้จะถึงสนามบินล่ะ เราต้องบอกคนที่บินอยู่ในนั้นให้รู้ว่าเรากำลังจะไปนะ เราก็จะแจ้งว่า ” Cherokee021 (ประเภทของเครื่องบิน ตามด้วย call sign ของเครื่องบินเรา) now 10 NM inbound west of the field will join 45 degree left downwind RWY 10 ” ส่วนใหญ่เราจะรีพอท 15NM, 10NM, 5NM, 3NM, และก็ก่อนที่จะ join 45 degree left/right downwind ถ้ามีเครื่องที่บินอยู่ในวงจรก็อาจจะบอกไปว่า..” no. 2 follow traffic on downwind ”

➙  เมื่อเราเข้าไปอยู่ในวงจรแล้ว ด้วยความที่เป็น uncontrolled airport เราต้องแจ้งทุกการกระทำของเรา เช่น…

➘  “Cherokee021 holding short RWY 10” คือบอกเค้าว่าเรา hold short รออยู่นะ

➘  “Cherokee021 lining up RWY 10 ” คือเราอยู่บนรันเวย์แล้วนะ

➘  “Cherokee021 departing RWY 10” เราเทคออฟแล้วนะ

➘  “Cherokee021 upwind RWY 10″ เราอยู่ upwind นะ ”

➘  “Cherokee021 turning crosswind RWY 10” เราเลี้ยวเข้า crosswind แล้วนะ

➘  “Cherokee021 left/right downwind RWY 10” เราอยู่ downwind แล้วนะ

➘  “Cherokee021 turning Base” หรือ “Cherokee N021 left/right base RWY 10 ” เราอยู่ base แล้วนะ

➘  “Cherokee021 now on Final RWY 10” เราอยู่ final แล้วนะ หมายความว่าเรากำลังจะแลนด์แล้วนะ

PA28-161

การ report ว่าจะทำอะไรใน uncontrolled airport เป็นสิ่งสำคัญ
เพราะทำให้คนที่ทำการบินอยู่ในวงจรรับรู้ว่ามีใครอยู่ในวงจรนี้บ้าง อยู่ตรงไหนบ้าง
เป็นสิ่งที่ทำให้นักบินรู้ถึงความเป็นไปและลดโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น
ในแต่ละครั้งที่เราแจ้งควรบอกให้สั้นและละเอียด เพื่อที่จะได้ง่ายต่อการมองหา
เช่น ระยะทางจากสนามบิน ทิศทางที่เรามา จุดที่เราอยู่ ประเภทของเครื่องบิน เป็นต้น

เมื่อเราสอบ  Stage I  ผ่าน อาจารย์เราก็ทบทวนการบิน traffic pattern และการทำแลนด์ดิ้งให้มั่นใจว่าเราสามารถบินเองโดยที่ไม่มีอาจารย์อยู่บนเครื่องกับเราได้จริงๆ เพราะเมื่อผ่าน  Stage I  ( Pre-Solo ) แล้ว คือ การที่อาจารย์จะปล่อยให้เราบิน SOLO หรือ การบินเดี่ยวครั้งแรก ซึ่งที่  Paris Air, Inc. จะมีการทำ SOLO 3 ครั้ง  2  ครั้งใน traffic pattern และ  1  ครั้ง  Outside Class D Airspace  ซึ่งสนามบิน  Vero Beach Municiple Airport  ที่โรงเรียนเราตั้งอยู่เป็นสนามบิน Class D Airspace เป็นสนามบินที่มีหอควบคุมการบิน หรือ Air Traffic Controller ( ATC ) การที่เราจะเข้าไปในระยะควบคุมของสนามนี้ได้เราต้องได้ Clearance หรือคำอนุญาตจาก ATC ก่อนเราถึงจะเข้าไปได้ ซึ่งการบินในสนามบินที่มีหอควบคุมเราไม่จำเป็นที่จะต้อง join 45 degree downwind เข้าไปล่ะ ขึ้นอยู่กับว่าหอเค้าจะสั่งให้เราไปเข้าตรงไหน อาจจะเป็น join base หรือ full left/right downwind ก็ได้

Class D airspace is normally extends from the surface to 2,500 ft.
above the ground. The outer radius is 4 nautical miles (NM)
img_6711
Vero Beach Municipal Airport (KVRB) *FYI เลข 25 ที่เห็น..เป็นเขตกำหนด Airspace จาก Surface to 2,500 ft. และก็เส้นวงกลมที่เป็นขีดๆ คือขอบเขตของ Class D airspace ถ้าต้องการเข้าไปในวงนั้นต้องได้รับ Clearance จาก ATC ก่อน

To be continued…

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s